วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

introduce


สาเหตุที่สร้าง Blogger นี้ขึ้นมา :
เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาชมได้รับความรู้เกี่ยวกับยี่ห้อรถยนต์ยี่ห้อต่างๆทั่วโลก จะมีทั้งประวัติความเป็นมา การผลิต ลักษณะต่างๆของรถยนต์  รุ่นต่างๆของรถ ฯลฯ  ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้เข้าชมทุกท่านที่เข้ามาชมจะได้รับความรู้จากเรื่องที่เราได้ทำการนำเสนอไม่มากก็น้อย
          ถ้าหาก Blogger นี้มีความผิดพลาดประการใดทางผู้จัดทำก็ขออภัยไว้ ณ.ที่นี้ด้วยค่ะ "

รถโฟล์ค


ประวัติความเป็นมาของรถโฟล์ค



ใน พ.ศ. 2476 อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำแห่งจักรวรรดิไรซ์ที่สาม (ปัจจุบันคือประเทศเยอรมนี) ในขณะนั้น ได้มองเห็นว่า บริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่ในขณะนั้น มักจะเป็นบริษัทรถยนต์หรูหรา ฟุ่มเฟือยมาก ทำให้มีเพียงผู้คนที่ฐานะร่ำรวยเท่านั้นที่ซื้อรถได้ ฮิตเลอร์ ซึ่งมีแนวคิดแบบชาตินิยม ได้สั่งการให้เฟอร์ดินานด์ ปอร์เช วิศวกรยานยนต์ (มีผลงานออกแบบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสเอสเค และรถปอร์เชอีกหลายรุ่น) พัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ ที่เป็นรถยนต์ระดับมาตรฐาน และสามารถบรรทุกผู้ใหญ่ 2 คน และเด็กอีก 3 คน ไปพร้อมๆ กันได้ และสามารถวิ่งด้วยอัตราเร็ว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ เป็นรถครอบครัวราคาถูก เพื่อให้ประชาชนแห่งจักรวรรดิไรซ์ที่สามได้มีรถยนต์ไว้ใช้ รวมทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจไปในตัว เฟอร์ดินานด์ ได้ดำเนินการพัฒนารถยนต์ที่มีคุณลักษณะตามความต้องการดังกล่าว จนแล้วเสร็จ ตั้งชื่อว่า โฟล์กสวาเกน ไทป์ 1 (ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น บีเทิล)
พ.ศ. 2480 บริษัทโฟล์กสวาเกนถูกจัดตั้งขึ้น เพื่อผลิตรถยนต์ราคาถูกและประหยัดน้ำมันสำหรับประชาชนแห่งจักรวรรดิไรซ์ที่สาม และไทป์ 1 ก็เป็นหนึ่งในรถยนต์รุ่นแรกๆ ของโฟล์กสวาเกน เริ่มการผลิตครั้งแรกใน พ.ศ. 2481 ตามคำสั่งของฮิตเลอร์ ด้วยราคาประมาณคันละ 990 ไรซ์มาร์ก (สกุลเงินของจักรวรรดิไรซ์ที่สาม ปัจจุบันยกเลิกไปแล้ว, รายได้เฉลี่ยของประชาชนจักรวรรดิไรซ์ที่สาม ณ ขณะนั้น อยู่ที่ประมาณ 140 ไรซ์มาร์ก/เดือน) ซึ่งใกล้เคียงราคาของรถจักรยานยนต์
การออกแบบของไทป์ 1 ส่วนใหญ่ใช้แนวคิดจากรถยนต์ยี่ห้อทาทรา (อังกฤษ: Tatra) รถยนต์ระดับกลาง ซึ่งมีลูกค้าอยู่มากพอสมควร ด้วยเพราะไม่เป็นรถยนต์ที่หรูเกินไปนัก แต่ก็มีเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบายให้อย่างตรงความต้องการ ซึ่งเทคโนโลยีบางอย่างก็ได้นำไปใช้ในไทป์ 1 ด้วย
การนำความคิดของทาทรามาใช้มากเกินไป ทำให้ทาธราฟ้องร้องโฟล์กสวาเกน แต่ทว่า เพียง 1 ปีให้หลัง สงครามโลกครั้งที่ ได้เริ่มต้นขึ้นในพ.ศ. 2482 และจักรวรรดิไรซ์ที่สามเป็นหนึ่งในแกนนำหลักของฝ่ายอักษะ ทำให้คดีชะงัก และการผลิตบีเทิลเพื่อจำหน่ายต้องระงับไปชั่วคราว และต้องมาผลิตให้กองทัพนำไปใช้

ลักษณะของรถยนต์
การตกแต่งภายนอก

โดยส่วนใหญ่แล้ว เจ้าของรถบีเทิลมักจะรักษาสภาพเดิมของบีเทิลไว้ให้ได้มากที่สุด แต่ก็มีเจ้าของจำนวนไม่น้อยที่นำบีเทิลไปแต่งรถ ด้วยเพราะบีเทิลใช้เทคโนโลยีมาตรฐาน การแต่งจะมาสามารถทำได้ง่าย ราคาถูก และสามารถแสดงตัวตนของเจ้าของออกมาได้ชัดเจน รูปแบบการแต่งบีเทิลที่พบเห็นได้มากคือ บาจา บั๊ก และ แคลิฟอร์เนีย ลุคบาจา บั๊ก เป็นการแต่งบีเทิลเป็นรถออฟโรด (สามารถวิ่งนอกถนนได้ วิ่งบนทะเลทราย ทุ่งหญ้า ชายหาด ได้) โดยการโหลดสูง ใส่ล้อใหญ่ และปรับแต่เครื่องยนต์พอควร ส่วนแคลิฟอร์เนีย ลุค จะมีลักษณะโหลดเตี้ย เปลี่ยนล้อเป็นล้อ 5 Spokes หรือ 8 Spokes และบางคันก็ถอดกันชนเดิมออก แล้วใส่แท่งเหล็กรับการชนแทน ดังรูป หรือเปลี่ยนเป็นกันชนโครเมียมหรือขัดมัน และนอกจากนี้ ยังมีการตกแต่งภายนอกแบบไม่อิงรูปแบบใดๆ ก็มีไม่น้อย
การตกแต่งภายใน


เจ้าของรถส่วนใหญ่มักจะรักษาสภาพภายในรถไว้แบบเดิมๆ แต่ด้วยความที่บีเทิลใช้เทคโนโลยีพื้นฐาน ง่ายต่อการดัดแปลง จึงมีเจ้าของรุจำนวนไม่น้อยที่ดัดแปลงภายในด้วย ที่พบเห็นได้มากคือ ติดตั้งเครื่องเสียง รวมถึงดัดแปลงลำโพง ติดซับวูเฟอร์ ส่วนรถแต่งซิ่ง ก็มีบ้างที่ใส่คานกันยุบใว้เต็มคัน แต่บีเทิลที่จะแต่งเป็นรถแข่งเต็มตัวก็หาได้ยาก ด้วยความที่ยังมีตัวเลือกเป็นรถที่ออกแบบเป็นรถสปอร์ตของแท้อีกหลายรุ่น เช่น ฟอร์ด มัสแตง รวมถึงรถสปอร์ตของยี่ห้ออื่นๆ ซึ่งเป็นรถสปอร์ตจริง ซึ่งจะน่าเชื่อถือกว่ารถสปอร์ตที่ดัดแปลงมาจากรถธรรมดาอย่างที่บางคนทำกับบีเทิล
เครื่องยนต์

เครื่องยนต์เดิมของบีเทิล เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง ขนาดใหญ่ที่สุด 1600 ซีซี มีบางคนที่ต้องการใช้บีเทิลในการแข่งรถ ได้ไปเปลี่ยนเครื่องยนต์ โดยนำเครื่องเดิมออก และใส่เครื่องยนต์สมรรถนะสูงลงแทน เช่น เครื่องยนต์ขนาดลูกสูบที่ใหญ่ขึ้น หรือเครื่องยนต์ 6 สูบ หรือ 8 สูบแบบวี เมื่อนำเครื่องลงแล้ว บีเทิลจะได้เปรียบรถรุ่นอื่นๆ คือ นำหนักของบีเทิลน้อย เพียงประมาณ 800 กิโลกรัม เมื่อลงเครื่องที่สมรรถนะสูง กำลังสูง จะทำให้ได้อัตราเร่งที่ดี จึงมีบีเทิลดัดแปลงจำนวนไม่น้อย ที่ได้ลงแข่งในสนาม ที่พบเห็นได้มากคือ สนาม Drag Racing คือ แข่งขันการขับยกล้อหน้าของรถเก๋ง ส่วน บาจา บั๊ก ก็เข้าสนามแข่งรถออฟโรดอยู่มากพอสมควร

โตโยต้า


โตโยต้า มอเตอร์ (ญี่ปุ่น: トヨタ自動車株式会社 Toyota Jidōsha Kabushiki-gaisha, Toyota Motor Corporation ) เป็นบริษัทผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น มีฐานการผลิตที่เมืองโตโยต้า จังหวัดไอจิ ยี่ห้อรถยนต์ในเครือได้แก่ โตโยต้า, เล็กซัส (Lexus) , ฮีโน่ (Hino) , ไดฮัตสุ (Daihatsu)
โตโยต้ามอเตอร์เป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และเป็นอันดับสามของโลก ซึ่งโตโยต้ามีความสามารถในการผลิตรถได้ประมาณแปดล้านคันต่อปี และเป็นบริษัทที่ให้กำเนิด ระบบการผลิตแบบโตโยต้า (Toyota Production System:TPS) และ วิถีแห่งโตโยต้า (Toyota Way) ที่โด่งดังไปทั่วโลก
จุดเริ่มต้น
โตโยต้า มอเตอร์ คอร์เปอเรชั่น เริ่มก่อตั้งเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2476 (ค.ศ. 1933) เมื่อบริษัทผลิตเครื่องทอผ้าโตโยดะนำโดยคีชิโระ โตะโยะดะได้ทำการตั้งแผนกใหม่ในปี พ.ศ. 2477 (ค.ศ. 1934) เพื่อทุ่มเทให้กับการพัฒนาเครื่องยนต์ Type A ซึ่งได้นำไปใช้ใน Model A1 ซึ่งเป็นรถยนต์นั่งคันแรกของบริษัทในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2478 (ค.ศ. 1935) และรถบรรทุก G1 ในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน ซึ่ง Model A1 ได้พัฒนามาผลิตเพื่อการค้าเต็มรูปแบบซึ่งคือ Model AA ในปี พ.ศ. 2479 (ค.ศ. 1937)
โตโยต้าในประเทศไทย
·         บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
·         คุณประมนต์ สุธีวงศ์ เป็นประธานกรรมการคนปัจจุบัน
·         ทุนจดทะเบียน 7,520 ล้านบาท
·         ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2499 ด้วยชื่อ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์เซลส์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียนแรกเริ่ม 11.8 ล้านบาท (ปัจจุบันได้ยุติการดำเนินการแล้ว และมาใช้ชื่อโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทยแทน)
·         ฐานการผลิต : โรงงานโตโยต้าเกตเวย์ อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา
·         รุ่นที่กำลังผลิตอยู่ในปัจจุบัน (ในประเทศไทย)
-         รถยนต์ซีดานขนาดกลางค่อนข้างใหญ่ โตโยต้า คัมรี่ (Toyota Camry) (เริ่มการผลิต/นำเข้า พ.ศ. 2537-ปัจจุบัน)
-         รถยนต์ซีดานขนาดกลางค่อนข้างใหญ่ ลูกผสมระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน และ มอเตอร์ไฟฟ้า โตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด (Toyota Camry Hybrid) (เริ่มการผลิต/นำเข้า พ.ศ. 2552-ปัจจุบัน)
-         รถยนต์แฮตซ์แบคขนาดกลาง ลูกผสมระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน และ มอเตอร์ไฟฟ้า โตโยต้า พริอุส (Toyota Prius) (เริ่มการผลิต/นำเข้า พ.ศ. 2553-ปัจจุบัน)
-         รถยนต์ซีดานขนาดเล็กระดับบน โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส (Toyota Corolla Altis) (เริ่มการผลิต/นำเข้า พ.ศ. 2540-ปัจจุบัน)
-         รถยนต์ซีดานขนาดเล็กระดับล่าง โตโยต้า วีออส (Toyota Vios) (เริ่มการผลิต/นำเข้า พ.ศ. 2546-ปัจจุบัน)
-         รถยนต์แฮตซ์แบค 5 ประตูขนาดเล็ก โตโยต้า ยาริส (Toyota Yaris) (เริ่มการผลิต/นำเข้า พ.ศ. 2549-ปัจจุบัน)
-         รถยนต์บรรทุกเพื่อการพาณิชย์ ขนาด 1 ตัน โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ (Toyota Hilux Vigo Champ) (เริ่มการผลิต/นำเข้า พ.ศ. 2554-ปัจจุบัน)
-         รถยนต์นั่งเพื่อการพาณิชย์ โตโยต้า ไฮเอซ (Toyota Hiace) (เริ่มการผลิต/นำเข้า พ.ศ. 2525-ปัจจุบัน)
-         รถยนต์นั่งเพื่อการพาณิชย์ (หลังคาสูง) โตโยต้า คอมมิวเตอร์ (Toyota Commuter) (เริ่มการผลิต/นำเข้า พ.ศ. 2532-ปัจจุบัน)
-         รถยนต์นั่งเพื่อการพาณิชย์ โตโยต้า เวนจูรี่ (Toyota Ventury) (เริ่มการผลิต/นำเข้า พ.ศ. 2548-ปัจจุบัน)
-         รถยนต์อเนกประสงค์ ขนาดใหญ่ โตโยต้า อัลฟาร์ด (Toyota Alphard) (เริ่มการผลิต/นำเข้า พ.ศ. 2551-ปัจจุบัน)
-         รถยนต์อเนกประสงค์ ขนาดกลาง โตโยต้า อินโนว่า (Toyota Innova) (เริ่มการผลิต/นำเข้า พ.ศ. 2547-ปัจจุบัน)
-         รถยนต์อเนกประสงค์ ขนาดเล็ก โตโยต้า อแวนซ่า (Toyota Avanza) (เริ่มการผลิต/นำเข้า พ.ศ. 2547-ปัจจุบัน)
-         รถยนต์ซีดานสปอร์ต 2 ประตู โตโยต้า 86 (Toyota 86) (เริ่มการผลิต/นำเข้า พ.ศ. 2555-ปัจจุบัน)
ตัวอย่างรถยนต์โตโยต้า






วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

รถมินิ


รถมินิ (อังกฤษ: Mini) คือรถขนาดเล็กที่ผลิตขึ้นโดยบริติชมอเตอร์คอร์ปอเรชัน (บีเอ็มซี) ประสบความสำเร็จตั้งแต่ปี ค.ศ. 1959 จนกระทั่ง 2000 เป็นรถที่โด่งดังที่สุดที่ผลิตโดยชาวอังกฤษ ต่อมาเข้าแทนที่โดยรถนิวมินิ ที่ออกมาในเดือนเมษายน ค.ศ. 2001 โดยบีเอ็มดับบลิว บริษัทแม่ในปัจจุบันของ บีเอ็มซี
รถมินิแบบดั้งเดิมถือเป็นสัญลักษณ์ในยุคทศวรรษ 1960 เป็นรถประหยัดพื้นที่ ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า (ที่ 80% ของพื้นที่เป็นพื้นที่ของการโดยสารและกระเป๋า) ยังมีอิทธิพลต่อการผลิตรถในรุ่นต่อมา ในบางครั้งยังได้รับการพิจารณาว่าเทียบเท่ากับรถเยอรมันอย่าง รถเต่าโฟล์กสวาเกน ที่ได้รับความแพร่หลายในอเมริกาเหนือ
ลักษณะเด่นคือมี 2 ประตู ออกแบบโดย เซอร์ อเล็ก อิซซิโกนิส มีการผลิตที่โรงงานในลองบริดจ์และคาวลีย์ ในสหราชอาณาจักร , โรงงานในวิกตอเรียปาร์ก/เซ็ตแลนด์ ของ บริติชมอเตอร์คอโปเรชัน (ออสเตรเลีย) ที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย และต่อมาในสเปน (Authi), เบลเยี่ยม , ชิลี , อิตาลี , โปรตุเกส , แอฟริกาใต้ , อุรุกวัย, เวเนซูเอลา และยูโกสลาเวีย
รถมินิมาร์กวัน ต่อมามีรุ่น มาร์กทู, คลับแมน และมาร์กทรี ในนี้ยังมีรูปแบบที่หลากหลายเช่น รถโดยสาร รถบรรทุก รถแวน และมินิโม้ก (ที่มีรูปแบบเหมือนรถจี๊ป) ส่วนรถมินิคูเปอร์และคูเปอร์ "เอส" เป็นรถที่ดูสปอร์ตและประสบความสำเร็จในฐานะรถแรลลี่ ที่ชนะในการแข่งเซอร์กิตเดอโมนาโก ที่มอนเตการ์โล มาแล้วถึง 3 ครั้ง
รถมินิมีแผนการตลาดภายใต้ออสตินและมอร์ริส ตั้งแต่มินิกลายเป็นยี่ห้อในปี ค.ศ. 1969
          รถมินิ Mini Cooper เป็นรถที่มีผู้คนทั่วโลกหลงใหลในความสวยงาม มีชื่อเสียงและตำนานที่ยาวนานพร้อมกับยุค VW Beatle ตั้งแต่ Mini เข้ามาอยู่ในความดูแลของ BMW ในปี 1994 ก็ได้ปรับปรุงตำนานนี้ใหม่จนได้นำโฉมใหม่ออกในปี 2002 มาสร้างความฮือฮากับแฟน mini พอสมควร

CVT Transmission for Mini Cooper

รถมินิ Mini Cooper เป็นรถที่มีผู้คนทั่วโลกหลงใหลในความสวยงาม มีชื่อเสียงและตำนานที่ยาวนานพร้อมกับยุค VW Beatle ตั้งแต่ Mini เข้ามาอยู่ในความดูแลของ BMW ในปี 1994 ก็ได้ปรับปรุงตำนานนี้ใหม่จนได้นำโฉมใหม่ออกในปี 2002 มาสร้างความฮือฮากับแฟน mini พอสมควร


ตัวอย่างรถยนต์ยี่ห้อมินิ